หน้าหลัก หลักการและเหุตผล การพัฒนานวัตกรรม Project Approach in Patai's Style ตัวอย่าง Project นักเรียน-ครู-ผู้ปกครอง บรรณานุกรมและอ้างอิง

 

องค์ประกอบของ Project – Based Learning ใน แผนการสอน

 

  • ชื่อ project

ชื่อprojectควรจะสามารถเรียกร้องความสนใจของนักเรียนและเฉพาะเจาะจงให้ตรงกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้

  • กลุ่มสาระที่เกี่ยวข้อง

    • ระบุกลุ่มสาระที่เป็นหลักของProject / กลุ่มสาระที่มีเนื้อหารับผิดชอบมากที่สุด
    • ระบุกลุ่มสาระที่บูรณาการในProject

  • คำถามหลักของProject

คำถามหลักของProjectจะนำพานักเรียนไปสู่การเรียนรู้แบบProjectซึ่งนักเรียนต้องศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล ทำงานร่วมกับผู้อื่น บริหารจัดการ แก้ปัญหา และ ตัดสินใจ เพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบของProject   คำตอบที่ได้มาไม่จำเป็นต้องมีคำตอบเดียวหรือมีการชี้ถูกผิด ควรเป็นคำตอบปลายเปิด ฉะนั้นการตั้งคำถามควรตั้งจากเหตุการณ์ปัจจุบันที่ใกล้ตัวนักเรียนมากที่สุด และคำถามไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบของประโยคคำถามเสมอไป อาจเป็นบรรยายปัญหา หรือ สถานการณ์ที่ต้องการให้นักเรียนแก้ไขหรือพัฒนาก็ได้
การตั้งคำถามที่ดี – กุญแจสู่การจูงใจนักเรียน

    • จำแนกลักษณะของคำถามให้ชัดเจน

      • คำถามถูก – ผิด (Factual Question)

      คำถามที่จะมีคำตอบเพียงคำตอบเดียว (ไม่เหมาะกับการเรียนแบบProject)

      • คำถามอภิปราย (Interpretive Question)

คำถามที่บรรยายสถานการณ์ปัญหาเพื่อการหาข้อสรุปซึ่งอาจมีคำตอบมากกว่าหนึ่งแต่คำตอบจะต้องมีหลักฐานหรือข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาสนับสนุนยืนยัน

      • คำถามประเมินและแสดงความคิดเห็น (Evaluative Question)

คำถามที่ต้องการคำตอบเป็นการแสดงความคิดเห็น ความเชื่อ  ส่วนรวมหรือส่วนบุคคล คำตอบไม่มีถูกผิด ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานหรือข้อมูลยืนยัน

 

    • คำถามต้องสามารถหาคำตอบได้
    • คำตอบต้องไม่ใช่ข้อมูลง่ายๆที่หาได้ทั่วไปโดยไม่ผ่านกระบวนการทางความคิด
    • คำตอบต้องไม่ใช่สิ่งที่นักเรียนรู้อยู่แล้ว
    • คำถามต้องตั้งอย่างมีจุดประสงค์ชัดเจนว่าคำตอบที่ได้ต้องเป็นแนวไหน หรืออย่างไร
    • คำถามต้องไม่ตั้งจากความคิดหรือความเชื่อส่วนบุคคล

  • วัตถุประสงค์ของProject

การตั้งวัตถุประสงค์ต้องชัดเจนและเฉพาะเจาะจงว่าต้องการให้นักเรียนได้อะไร หรือ มีแนวทางที่จะพัฒนานักเรียนไปยังจุดหมายใด เพื่อให้ทั้งครูและนักเรียนมีแนวทางที่ชัดเจนร่วมกันในการดำเนินProject ซึ่งจะทำให้การเรียนรู้ประสบความสำเร็จง่ายขึ้นและมากขึ้น

  • มาตรฐานการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง

การเรียนรู้แบบProject เป็นการเรียนรู้แบบบูรณาการ ยืดหยุ่นและไม่มีรูปแบบตายตัวแต่ต้องคงไว้ซึ่งมาตรฐานของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนด ฉะนั้น ทุกกลุ่มสาระที่เกี่ยวข้องต้องแจงมาตรฐานการเรียนรู้ของตนได้อย่างชัดเจนเพื่อการเรียนรู้และประเมินผลที่สมบูรณ์

  • Project Web Model

การเขียนWeb Model ของ Project สามารถทำได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับการวางแผนของครูผู้สอน

  • การนำไปใช้

การนำไปใช้ไม่ใช่หมายความถึงการพัฒนาความรู้ หรือ ทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เมื่อจบproject เท่านั้น แต่หมายถึงการเชื่อมโยงกับชีวิตจริงตั้งแต่เริ่มวางแผนของproject การตั้งวัตถุประสงค์ หรือ สถานการณ์ปัญหา ควรเป็นเรื่องในปัจจุบันที่นักเรียนประสบอยู่ และ ในช่วงระหว่างการดำเนินproject ควรให้นักเรียนมีโอกาสที่จะไปหาข้อมูลหรือคำตอบของprojectจากโลกภายนอก เช่น การค้นคว้าจาก Internet, การสัมภาษณ์บุคคล, การทัศนศึกษา ฯลฯ เพราะการเรียนรู้จะประสบความสำเร็จก็ต่อเมื่อผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้เหล่านั้นกับประสบการณ์หรือความรู้เก่าของตัวเองเท่านั้น

 

  • การวางแผน

ถึงการเรียนรู้แบบprojectจะให้อิสระกับนักเรียนในการวางแผนการเรียนรู้แต่ครูต้องมีการกำหนดแผนคร่าวๆเกี่ยวกับการดำเนินงานproject ไว้ เพื่อให้ครูผู้รับผิดชอบทุกคนมีแนวการเรียนการสอนและการตัดสินใจไปในทิศทางเดียวกัน  สิ่งที่ต้องกำหนดขั้นไว้มีดังนี้

    • กิจกรรมการเรียนรู้

กิจกรรมทุกกิจกรรมที่อยู่ในproject ต้องมีวัตถุประสงค์ที่แน่นอนแต่ในรายละเอียดวิธีการครูและนักเรียนจะช่วยกันคิดและกำหนดรายละเอียดในระหว่างการทำproject
เช่น ครูกำหนดว่า
กิจกรรมที่ 1 คือการแนะนำprojectเพื่อให้นักเรียนเข้าใจวัตถุประสงค์ และสำรวจความรู้เดิมของนักเรียน แต่วิธีการที่จะทำอาจไปตกลงกับนักเรียนว่าจะทำอย่างไร เช่น การเขียน Mind map / Brainstorm ฯลฯ

    • กำหนดเวลา

      • ระยะเวลาทั้งหมดในการทำproject
      • ระยะเวลาที่ใช้ในแต่ละขั้นตอน / กิจกรรม
      • เวลาที่ใช้จะอยู่ในเวลาเรียนทั้งหมดหรือจะใช้นอกเวลาเรียนบางส่วน
      • ระยะเวลาจะทยอยทำตามคาบเรียนหรือ (Blocked – Learning Duration)จะกำหนดช่วงเวลาแล้วงดการเรียนการสอนอื่นๆทั้งหมด

การมีกำหนดเวลาที่แน่นอนจะช่วยให้ครูและนักเรียนวางแผนการทำงานให้เหมาะสมกับเวลา และเป็นตัวแปรหนึ่งที่จะกดดันให้นักเรียนกระตือรือร้นในการเรียนรู้และทำงานให้เสร็จทันเวลา

  • การประเมินผล

ครูต้องสร้าง Rubric ที่ชัดเจน กำหนดรายละเอียดตัวบ่งชี้ที่แน่นอนและสามารถเห็นเป็นรูปธรรมได้เพื่อจะประเมินอย่างยุติธรรมและมีประสิทธิภาพ

    • การสังเกต ตรวจสอบจากพฤติกรรมการทำงาน (Monitor)

สังเกตและประเมินจากพฤติกรรมการทำงานของสมาชิกในproject ทุกคน

      • การให้ความร่วมมือ
      • ความรับผิดชอบในการทำงานส่วนของตน
      • ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น
      • การแสดงความเห็น / อภิปราย

    • การประเมินการผลงาน / ผลลัพธ์ที่ได้ (Assess the outcome)

ประเมินจากผลลัพธ์ที่เห็นเป็นรูปธรรมมีหลักฐานร่องรอยที่ชัดเจน

    • เอกสารการเรียนรู้ เช่น ใบงาน หรือ รายงาน
    • ผลงาน / ชิ้นงานสำเร็จ
    • การนำเสนอ
    • ประเมินประสบการณ์ (Evaluate experience)
    • บทสรุปproject

เป็นการให้นักเรียนทั้งหมดวิเคราะห์ วิจารณ์การทำงาน / กิจกรรมที่ผ่านมาทั้งหมด หัวข้อที่ควรนำมาอภิปรายมีดังนี้

  • ระยะเวลาการทำงาน
  • ความรู้และประโยชน์ที่ได้รับ
  • ความรู้สึกต่อเพื่อนร่วมงาน
  • ความรู้สึกต่อproject
  • สิ่งที่นักเรียนคิดว่าทำดีแล้วในprojectนี้
  • สิ่งที่นักเรียนคิดว่าต้องแก้ไขหรือปรับปรุงต่อไป
  • นำเสนอ อภิปราย แนะนำ projectใหม่ที่จะทำ
  • การประเมินตนเอง

นักเรียนทุกคนต้องมีการทำใบประเมินตนเองเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ตนเองของนักเรียนและครูสามารถนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงการเรียนการสอนต่อไป

 
ตัวอย่างรูปแบบการเขียนแผนการสอน
 
 
 
 
 
 
 
 
..