Project Approach in Patai's
Style |
|
วัตถุประสงค์
กระบวนการเรียนรู้เน้นการพัฒนาผู้เรียน 4 ด้าน
ความคิดอิสระและสร้างสรรค์
นักเรียนต้องมีอิสระในการสร้างผลงาน / ชิ้นงาน ตามความคิดความสามารถของตนเองตามศักยภาพและความถนัด |
|
|
|
้
การค้นคว้าหาองค์ความรู้
นักเรียนต้องมีโอกาสได้สืบค้น ค้นคว้า หาข้อมูล หรือ คำตอบของปัญหาด้วยตนเองจากแหล่งข้อมูลต่างๆ และได้วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลที่ได้มาให้เป็นองค์ความรู้ |
|
|
|
การแสดงออกและการแก้ปัญหา
นักเรียนต้องได้แสดงความคิดเห็นและมีโอกาสได้แสดงออกนั้นนำมาซึ่งการแก้ปัญหาในการเรียนรู้และดำเนินงาน และเป็นการสร้างความมั่นใจและภาคภูมิใจของตนเอง |
|
|
............ |
 |
|
|
ทักษะทางสังคมและสุนทรียภาพทางอารมณ์
นักเรียนต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน, การทำงานเป็นทีม, การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และการ
เป็นผู้นำ – ผู้ตามที่ดี มีจิตใจที่สมบูรณ์ เพื่อเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมต่อไป |
|
|
|
|
|
ขั้นตอนการดำเนิน Project |
|
ระยะที่ 1: แนะนำ นำเข้าสู่ project
- การนำเข้าสู่บทเรียน และชี้แจงชื่อและวัตถุประสงค์ของ project
- โจทย์ของ project
(สิ่งที่นักเรียนต้องแก้ไขปัญหา หรือ หาคำตอบ)
- สำรวจฐานความรู้เก่า
|
|
|
|
|
............ |
 |
|
|
ระยะที่ 2: หมุนเปลี่ยนเรียนรู้
กิจกรรมย่อยใน project คือฐานการเรียนรู้ นักเรียนทุกคนต้องเข้าไปทำกิจกรรมหรือผลิตชิ้นงานตามโจทย์ของแต่ละฐาน ในแต่ละฐานมีโจทย์มากกว่า 1 ให้นักเรียนสามารถเลือกทำตามความพอใจ (แต่ทุกโจทย์ครูวิเคราะห์แล้วว่านักเรียนจะได้มาตราฐานการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่เหมือนกัน)ภายใต้เวลาที่กำหนดและจะเปลี่ยนฐานการเรียนไปเรื่อยๆจนครบทุกฐาน
การหมุนฐานกิจกรรมที่ 2 แบบตามแบบ Web
Model ที่สร้างขึ้น |
|
Web
Model รูปแบบที่ 1 |
|
Web
Model รูปแบบที่ 2 |
|
|
|
|
|
ความแตกต่างระหว่าง Web
Model รูปแบบที่ 1 และ 2
กิจกรรมย่อยทุกกิจกรรมใน Web
Model รูปแบบที่ 1 สามารถทำไปพร้อมๆกันได้ แต่กิจกรรมย่อยใน Web
Model รูปแบบที่ 2 เชื่อมโยงกันต้องทำเรียงตามลำดับ
|
|
ทุกกิจกรรมย่อยในระยะที่ 2 ต้องมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. วางแผน
- แบ่งกลุ่มนักเรียนเข้าฐานการเรียนรู้ที่แบ่งตามกิจกรรมหรือกลุ่มสาระก็ได้ขึ้นอยู่กับการเตรียมของครู ทุกฐานได้รับการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ และเนื้อหาแล้วเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนจะได้เรียนรู้ในมาตราฐานที่ครูต้องการ
- แนะนำฐานการเรียนและให้นักเรียนวางแผนขั้นตอนในการทำงาน, กติกาในการทำงานร่วมกัน , ระยะเวลาในการทำงานแต่ละขั้น, ผู้รับผิดชอบ และ การแบ่งกลุ่มและวางแผนกลุ่มย่อย (ถ้ามี)
|
|
|
|
2. สืบค้น
- จากการทดลอง / ประสบการณ์จริง เช่น การทดลองทางวิทยาศาสตร์หรือการทัศนศึกษา
|
|
|
|
- จากแหล่งข้อมูล
- หนังสือ หรือ สื่อสิ่งพิมพ์
- สื่อสารสนเทศ เช่น โทรทัศน์ หรือ Internet
- การสัมภาษณ์ และวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ
ในการสืบค้นครูผู้สอนควรมีใบงานหรือตัวชี้นำนักเรียนว่าควรเข้าไปหาข้อมูลในเรื่องใดเพื่อการสืบค้นจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนจะได้มีทิศทางที่ถูกต้อง ประหยัดเวลาและทรัพยากร |
|
|
|
ใบงานหรือตัวชี้นำนั้นอาจจะมาจากที่ประชุมวางแผนของนักเรียนหรือถ้าในระดับชั้นเด็กเล็กครูควรเป็นผู้ทำให้
เช่น Project เกี่ยวกับผีเสื้อ
ผิด |
คำสั่ง
ให้นักเรียนไปค้นคว้าเรื่องผีเสื้อ |
ถูก |
คำสั่ง
- ผีเสื้อเป็นสัตว์ชนิดใด
- วงจรชีวิตของผีเสื้อ
- ฯลฯ
|
|
|
3. ดำเนินงานให้เสร็จ
- ประชุมอภิปรายความคืบหน้า
- แสดงผลงาน / ชิ้นงานที่ได้ทำมาแล้ว / วิเคราะห์วิจารณ์การทำงานของตนเองและผู้ร่วมงาน
|
|
|
................ |
 |
|
|
- นำเสนอ และ วิเคราะห์ ข้อมูลที่ไปสืบค้นมาร่วมกัน
- อธิบายรายละเอียดของงานที่จะทำต่อไป, ตรวจระยะเวลาที่เหลือในการทำงานและวางแผนดำเนินงานต่อไป
- ผลิตผลงาน / ชิ้นงานที่เป็นรูปธรรมให้สำเร็จตามแผนโดยมีครูเป็นผู้ชี้แนะและควบคุม
|
|
ระยะที่ 3: การเชื่อมโยงกับชีวิตจริง
- นักเรียนสรุปผลงานและสิ่งที่เรียนรู้
- นำสิ่งที่เรียนมาเชื่อมโยงกับสิ่งที่นักเรียนสามารถจะทำต่อเองในชีวิตประจำวันหรือการทำเพื่อสังคมต่อไป
- ครูประเมินการทำงานและผลงานของนักเรียน
|
|
|
................ |
 |
|
|
ระยะที่ 4: การนำเสนอเผยแพร่
- วางแผนการนำเสนอ
- ผลิตอุปกรณ์หรือเตรียมการในนำเสนอ
- นำเสนอสู่สาธารณะ
|
|
|
|
ระยะที่ 5: สรุป – ประเมินตนเอง
- วิจารณ์การทำงานรายบุคคล
- สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้และประโยชน์ที่ได้จาก project
- แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกเกี่ยวกับ project และสรุปปัญหาและทางแก้ไข
- ทำใบประเมินตนเองที่เป็นลายลักษณ์อักษร
- แนะนำหรือเสนอหัวข้อ project ใหม่
|
|
ตัวอย่างใบประเมิน |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เริ่มต้น |