จากบทร้อยกรองนี้ทำให้ได้รับความรู้ว่า สุนทรภู่เดินทางไปนมัสการพระพุทธบาท
โดยตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ เมื่อปีพุทธศักราช 2351 ตรงกับเวลา
12 ค่ำ เดือนยี่ เวลาเช้าตรู่ ออกเดินทางจากวัดระฆังโฆสิตาราม
ซึ่งพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ทรงผนวชอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตารามแห่งนี้
และสุนทรภู่เป็นมหาดเล็กในขณะนั้น |
|
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารเดิมเรียกว่า
วัดบางหว้าใหญ่เป็นวัดโบราณครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี |
|
สำหรับประวัติวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นโท
ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เดิมเรียกวัดบางหว้าใหญ่
เป็นวัดโบราญสร่างในสมัยกรุงศรีอยุธยา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดและได้ทรงถวายหอพระไตรปิฎกและมีคนรียกกันว่าตำหนักจันทร์
และที่เรียกว่าวัดระฆังเพราะมีการขุดพบระฆังที่มีเสียงไพเราะที่วัดนี้
ในภายหลังรัชกาลที่1ได้ทรงขอระฆังเสียงดีลูกนี้ไปวัดที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
และทรงสร้างหอระฆังมีจัตุรมุขพร้อมระฆังอีก5ลูก เพราะเหตุนี้จึงได้ชื่อตามที่ประชาชนเรียกว่าวัดระฆัง |
|
รูปปั้นสมเด็จพระพุฒาจารย์
(โต) เป็นสัญลักษณ์แทนว่าท่านเคยจำพรรษาที่วัดแห่งนี้
เป็นที่สักการะที่นับถือของชาวพุทธ
|
|
|
ด้านหน้าวัดระฆังโฆสิตารามอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก
ตรงข้ามท่าช้างวังหลัง
|
|
|
สภาพปัจจุบันหน้าวัดระฆังเป็นท่าเรือวัดระฆังที่มีคนสัญจรไปมาเพื่อข้ามฟากไปท่าช้าง |
|
|
|
|
|