การพัฒนานวัตกรรม
 
 
 

 

ช่วงที่ 1: การพัฒนานวัตกรรม

  • การค้นคว้าข้อมูลพื้นฐานการเรียนการสอนแบบต่างๆ

การค้นคว้าการเรียนรู้แบบต่างๆไม่เฉพาะแต่การเรียนแบบ Project Approach, Project – Based Learning แต่เพียงต่างเดียว แต่ทฤษฎีอื่นๆทั้งที่กล่าวอ้างไว้และไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในการเรียนแบบ โครงงาน เช่น ทฤษฎี Brain – Based Learning, Inquiry – Based Learning, Cooperative Learning, Problem – Based Learning ฯลฯ ทั้งจากหนังสือ และ อินเตอร์เน็

 

ทฤษฎีกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ

 
  • การวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับครูผู้สอน

นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสียที่จะเกิดขึ้นถ้าเราจะนำทฤษฎีการเรียนรู้แบบต่างๆมาใช้  พร้อมกับวิเคราะห์สภาพความพร้อมของครู นักเรียน และ โรงเรียน เพื่อนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐานในการสร้างการเรียนรู้แบบโครงงานแบบไผทอุดมศึกษาแล้วนำมาออกแบบ Graphic Organization Model ของกระบวนการเรียนรู้ ได้เป็น 2 แบบ

 

Web Model รูปแบบที่ 1

Web Model รูปแบบที่ 2

 

การพัฒนา Project Approach in Patai’s Style
จากข้อมูลที่ได้ทั้งหมดได้ถูกพัฒนาเป็นรูปแบบของไผทอุดมศึกษา

 

Project Approach in Patai’s Styles

 

  • อบรมครูเรื่องกระบวนการเรียนแบบโครงงานตามแบบโรงเรียนไผทอุดมศึกษา
    ประชุมชี้แจงและอธิบายให้ครูเข้าใจในกระบวนการเรียนแบบโครงงานที่พัฒนาขึ้น
   
 
..................................
 
  • การประชุมแผนงานร่วมกับครูที่รับผิดชอบ
    ประชุมครูผู้รับผิดในแต่ละระดับชั้นเพื่อให้แน่ใจว่าครูเข้าใจ
    กระบวนการอย่างถ่องแท้
 
 
  • การทำแผนการสอน เตรียมการสอนและการกำหนดการประเมินผล
    ประชุมร่วมกันทั้งฝ่ายวิชาการ, นวัตกรรมและครูผู้สอนแต่ละระดับชั้น
    เพื่อทำแผนการสอนและกำหนดกรอบของกิจกรรม ครูเขียนแผนตาม
    รูปแบบใหม่ที่พัฒนาขึ้น (รายละเอียดโครงสร้างแผนการสอนอยู่ใน
    CD – ROMที่แนบมาด้วย) จากนั้นผู้สอนจัดการเตรียมอุปกรณ์
    และสื่อการสอนต่างๆตามแผน
 

รูปแบบการเขียนแผนการสอน

รูปแบบการประเมินผล

 
 

 

ช่วงที่ 2:  การลงมือปฏิบัติจริง

  • การดำเนินการเรียนการสอนแบบProject Approach

เพื่อให้ครูและนักเรียนเข้าใจวิธีการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ง่ายขึ้น โรงเรียนจึงจัดกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และจัดคาบเรียนแบบ Blocking periods ระยะเวลา 5 วัน (35 คาบ) ดำเนินการเรียนการสอนให้ทั้งครูและนักเรียนอื่นๆได้ดู  และจัดนักเรียนชั้นมัธยมทั้งหมดเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ 2 จัดคาบเรียนแบบ Blocking periods ระยะเวลา 5 วัน (35 คาบ) เพื่อให้ครูและนักเรียนเข้าใจมากขึ้น ระดับชั้นอื่นๆดำเนินการเรียนการสอนตามตารางสอนปกติตามแผนการสอนที่วางไว้ กำหนดให้แต่ละระดับชั้นทำโครงงานดังนี้

 

ระดับชั้น

Project

ระดับชั้น

Project

ประถมศึกษาปีที่ 1

4

ประถมศึกษาปีที่ 6

2

ประถมศึกษาปีที่ 2

4

มัธยมศึกษาปีที่ 1

2

ประถมศึกษาปีที่ 3

4

มัธยมศึกษาปีที่ 2

2

ประถมศึกษาปีที่ 4

3

มัธยมศึกษาปีที่ 3

2

ประถมศึกษาปีที่ 5

3

 

 

 
...... ......
 
o การติดตามและประเมินผล
      • จัดให้มีการประชุมครูผู้รับผิดชอบทุกสัปดาห์เพื่อนำปัญหาที่เกิดขึ้นมาช่วยกัน วิเคราะห์และแก้ไข นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้ครูผู้สอนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพราะการเรียนรู้แบบนี้เป็นการเรียนแบบบูรณาการครูผู้รับผิดชอบทุกคนจะมีแต่ความเข้าใจ
        หรือความรู้ในสาขาตนเองเท่านั้นไม่ได้

      • การประเมินผลของนักเรียน กำหนดเป็น 2 ระยะ ช่วงกลางของระยะเวลาเรียนทั้งหมดที่กำหนดไว้ และช่วงสรุปหรือนำเสนอผลงาน

      • นักเรียนประเมินตนเองและโครงการเมื่อจบโครงงาน
 
 
 

 

ช่วงที่ 3: การพัฒนาให้ดีขึ้น

  • การประเมินโครงการ

  • ประชุมครูผู้สอนทั้งหมดในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนเพื่อสรุปการดำเนินโครงการและปัญหา
  • ประชุมปัญหาการเรียนการสอนแบบโครงงานเมื่อจบภาคการศึกษา
  • ครูทำแบบประเมินตนเองในการดำเนินการสอนแบบโครงงานเมื่อจบภาคการศึกษา
 
 
 

 

หน้าหลัก หลักการและเหุตผล การพัฒนานวัตกรรม Project Approach in Patai's Style ตัวอย่าง Project นักเรียน-ครู-ผู้ปกครอง บรรณานุกรมและอ้างอิง ช่วงที่ 1ช่วงที่ 2 ช่วงที่ 3